เคล็ดลับสำคัญ : วิธีเพิ่มความปลอดภัยของ endpoint

Top tips คือคอลัมน์รายสัปดาห์ที่สรุปเทรนด์เด่นในโลกเทคโนโลยีพร้อมเสนอแนวทางรับมือ หรือปรับใช้กับองค์กรของคุณ สำหรับสัปดาห์นี้ เราจะพาไปดูวิธีการเพิ่มความปลอดภัยของ Endpoint ในองค์กรของคุณ

ในโลกของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ความปลอดภัยของ Endpoint จึง กลายเป็นหัวข้อสำคัญ ในด้านการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ขององค์กร ด้วยการทำงานระยะไกลและจำนวนอุปกรณ์ที่เข้าถึงเครือข่ายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแล็ปท็อป สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์ IoT อุปกรณ์เหล่านี้ล้วนกลายเป็นเป้าหมายหลักของการโจมตี ทางไซเบอร์ และเปรียบเสมือนประตูที่เปิดทางในการเข้าถึงข้อมูล หากข้อมูลเหล่านี้ถูกเผยแพร่จะกลายเป็นภัยคุกคามต่อองค์กร สำหรับผู้บริหารแล้วการทำให้ระบบ Endpoint มีความปลอดภัยและแข็งแรงจึงไม่ใช่เพียงความท้าทายทางเทคนิคเท่านั้น แต่ยังเป็น “ความสำคัญเชิงกลยุทธ์” ที่จะช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญและรักษาประสิทธิภาพการดำเนินงาน ขององค์กรเอาไว้

นี่คือเคล็ดลับสำคัญสำหรับผู้นำองค์กร เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยของ Endpoint ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

 1.ตรวจสอบความปลอดภัยของ Endpoint เป็นประจำ

หลายองค์กรเผชิญกับความเสี่ยงจาก Endpoint ที่ ‘มองไม่เห็น’ ซึ่งก็คืออุปกรณ์ ที่เชื่อมต่อเข้าสู่เครือข่าย แต่อุปกรณ์เหล่านี้กลับไม่ถูกรวมอยู่ในข้อกำหนดด้านความปลอดภัย อุปกรณ์ที่ไม่ได้รับการจัดการอาจกลายเป็นช่องทางให้การโจมตีทางไซเบอร์เกิดขึ้นได้ และทำให้ข้อมูลหรือระบบสำคัญรั่วไหล การตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอจึงช่วยป้องกันไม่ให้ปัญหา เหล่านี้ พร้อมทั้งทำให้มั่นใจได้ว่า แต่ละอุปกรณ์ถูกผูกโยงกับพนักงานที่ใช้งานจริง

การตรวจสอบยังช่วยให้ทีมผู้ดูแลระบบสามารถเก็บข้อมูลและจัดทำโปรไฟล์ของแต่ละ Endpoint เพื่อนำไปประเมินระดับความเสี่ยง และตรวจสอบให้มั่นใจว่าเป็นไปตามนโยบายความปลอดภัย ขององค์กรการรับรู้สถานะของ Endpoint ทั้งหมดจะทำให้ผู้บริหารมั่นใจได้ว่าไม่มีอุปกรณ์ ใดที่ถูกละเลย หรือขาดการป้องกัน ความปลอดภัย

2.ใช้การควบคุมการเข้าถึงแบบ Zero Trust

ในยุคที่อุปกรณ์สามารถเข้าถึงเครือข่ายได้จากหลายสถานที่ทำให้โมเดลการรักษา ความปลอดภัยแบบเดิมอย่าง perimeter-based ไม่เพียงพออีกต่อไป  แนวทาง Zero Trust ช่วยให้มั่นใจได้ว่า จะไม่มีผู้ใช้หรืออุปกรณ์ใดได้รับการเข้าถึงโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วย ลดความเสี่ยงจากการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้องค์กรสามารถใช้นโยบาย การเข้าถึงแบบ least-privilege access โดยให้สิทธิแก่ผู้ใช้ เท่าที่จำเป็นต่อบทบาทหน้าที่เท่านั้น อีกหนึ่งวิธีที่องค์กรสามารถใช้ Zero Trust คือการบังคับใช้การยืนยันตัวตนหลายชั้น หรือ Multi-Factor Authentication: MFA ในทุก Endpoint เพื่อป้องกันปัญหาจากการเข้าสู่ระบบ การบังคับใช้ MFA บน Endpoint ทั้งหมดเพื่อรักษาความปลอดภัยของการเข้าสู่ระบบ ถือเป็นส่วนหนึ่งของ Zero Trust access controls ที่มีประสิทธิภาพ Zero Trust ช่วยปกป้องข้อมูลเชิงลึกที่มีความสำคัญสูงด้วยการตรวจสอบคำร้องขอเข้าถึงทุกครั้ง ก่อนอนุมัติ และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมองค์กรจึงควรใช้แนวทางนี้ก่อนที่จะอนุญาตการเข้าถึงใดๆ ให้กับพนักงาน

3.จัดการ patch แบบอัตโนมัติ

ซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้อัปเดตเป็นหนึ่งในช่องโหว่ที่ผู้โจมตีสามารถใช้ประโยชน์ได้ง่ายที่สุด ดังนั้นการทำให้มั่นใจว่า Endpoint ทุกเครื่อง มีการติดตั้ง security patch เวอชั่นล่าสุด จึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล วิธีที่องค์กรนำการจัดการ security patch มาใช้ คือ การลงทุนในเครื่องมือสำหรับ การจัดการ patch อัตโนมัติหรือการมอบหมาย ให้เจ้าหน้าที่ และ ผู้ดูแลระบบจากภายนอกดูแลการอัปเดตสำคัญและตรวจสอบ ให้เป็นไปตามข้อกำหนด การทำให้ patch เป็นอัตโนมัติจะช่วยลดความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ และทำให้องค์กรสามารถรับมือกับภัย คุกคามใหม่ ๆ ได้อย่างทันท่วงที

4.ให้ความรู้แก่พนักงานเกี่ยวกับความปลอดภัยของ Endpoint

แม้จะมีเครื่องมือที่ล้ำสมัยเพียงใด แต่ความผิดพลาดของมนุษย์ก็ยังคงเป็นหนึ่งในสาเหตุหลัก ของการละเมิดความปลอดภัยทางไซเบอร์พนักงานที่ขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ ความปลอดภัยของ Endpoint อาจเผลอทำให้ระบบถูกเจาะได้จากการกระทำที่เสี่ยง การจัดอบรมเป็นประจำเกี่ยวกับการสังเกตอีเมลฟิชชิ่งและการใช้รหัสผ่านที่รัดกุมถือเป็นก้าวสำคัญในการป้องกันปัญหานี้ นอกจากนี้การกำหนดนโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ การติดตั้งซอฟต์แวร์ และการแบ่งปันข้อมูลรวมถึงการทำให้ข้อมูลเหล่านี้เข้าถึงได้ง่าย สำหรับพนักงาน จะช่วยให้พนักงานสามารถตัดสินใจได้อย่างรอบคอบมากขึ้น พนักงานที่มีความรู้ ถือเป็นแนวป้องกันอีกขั้นหนึ่งต่อความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ Endpoint และนี่คือวิธีที่องค์กรสามารถร่วมกันยืนหยัดต่อการโจมตีทางไซเบอร์ที่แพร่หลายได้

ความปลอดภัยของ Endpoint ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไปแต่เป็นสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐาน ในการปกป้องข้อมูลและการดำเนินงานขององค์กร ด้วยการนำกลยุทธ์ต่าง ๆ มาปฏิบัติ เช่น การตรวจสอบ Endpoint อย่างสม่ำเสมอ การใช้การควบคุมการเข้าถึงแบบ Zero Trust การจัดการ patch แบบอัตโนมัติ และ การใช้แพลตฟอร์มป้องกันขั้นสูง ทำให้ผู้บริหารสามารถมั่นใจได้ว่า เครือข่ายของตนจะคงความแข็งแกร่งในการรับมือกับภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา